
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2560 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคารของคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนิสิต
คนชุ่ยทิ้งก้นบุหรี่ลงกระดาษลัง และอาจารย์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอาคารเป็นอย่างมาก หลายคนรีบวิ่งหนีออกจากตัวอาคารเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบต้นเพลิงอยู่บริเวณบันไดชั้นสามของอาคาร
ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บเศษกระดาษใช้แล้วและกล่องลังที่ซ้อนกันไว้จำนวนมาก ไฟได้ลุกไหม้กล่องกระดาษอย่างรวดเร็ว ส่งกลุ่มควันสีดำหนาทึบออกมาจากบริเวณดังกล่าว ทำให้ผู้ที่อยู่ในอาคารต่างพากันแตกตื่น วิ่งออกมารวมตัวกันบริเวณลานหน้าอาคารเพื่อรอการช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้สำเร็จ โดยใช้น้ำฉีดดับไฟจนสงบลง โชคดีที่ไฟยังไม่ลุกลามไปถึงตัวอาคารส่วนอื่น ๆ
ซึ่งหากปล่อยให้ไหม้ต่อเนื่อง อาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงมากกว่านี้

หลังจากเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรแสนสุข ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมกับเก็บหลักฐานเบื้องต้น
เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ โดยจากการสอบถามพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ พบว่าก่อนเกิดเหตุ มีคนสังเกตเห็นควันไฟลอยขึ้นมาจากบริเวณบันไดชั้นสาม เมื่อเดินไปดูก็พบว่าเศษกระดาษและกล่องลังได้เริ่มติดไฟ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาระงับเหตุทันที
จากการสันนิษฐานเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุของเพลิงไหม้อาจเกิดจากก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณดังกล่าว ก้นบุหรี่ที่ยังมีความร้อนอยู่เมื่อสัมผัสกับเศษกระดาษและกล่องลังที่เป็นวัสดุไวไฟ
จึงทำให้ไฟลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนิสิตและอาจารย์หลายคน หลายคนเผยว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยได้ออกประกาศเตือนให้ทุกคนในสถาบันเพิ่มความระมัดระวังในการทิ้งขยะประเภทไวไฟ
โดยเฉพาะก้นบุหรี่ และขอความร่วมมือจากนิสิต อาจารย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญในการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อ โดยเฉพาะในพื้นที่มหาวิทยาลัยซึ่งมีนิสิต อาจารย์ และเจ้าหน้าที่จำนวนมาก การเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอัคคีภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังแนะนำให้มหาวิทยาลัยจัดการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเกิดอัคคีภัยภายในอาคารอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงเพิ่มเติมในจุดสำคัญ และฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุไฟไหม้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
สนับสนุนเนื้อหานี้โดย เครื่องช่วยฟังยี่ห้อไหนดี